เชียงใหม่ เร่งลดการเผาในเขตเมือง-พื้นที่เกษตร ป้องกันฝุ่นจิ๋วพุ่ง

เชียงใหม่ เร่งลดการเผาในเขตเมือง-พื้นที่เกษตร ป้องกันฝุ่นจิ๋วพุ่ง

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงการเตรียมการป้องกันปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ว่า สิ่งจำเป็นที่สุดในการแก้ไขปัญหาคือ ความร่วมมือของประชาชนชาวเชียงใหม่กว่า 1.8 ล้านคน และประชาชนที่มาอยู่อาศัย ทั้งในภาคเกษตรกรรม และทำกิจกรรมอื่นๆ รวมแล้วกว่า 2 ล้านคน

ซึ่งจะทำให้เชียงใหม่สามารถแก้ปัญหาได้ดี เพื่อผ่านสถานการณ์นี้ไป ปีนี้เรามีการถอดบทเรียนเรื่องการเผาในเขตป่า พยายามเจาะเข้าไปในพื้นที่ที่มีความท้าทายเป็นพิเศษ เพื่อปิดช่องโหว่ให้ได้ และต้องดีกว่าเดิม

มิติใหม่คือ การแก้ปัญหาทุกพื้นที่ ไม่ให้เกิดรอยต่อระหว่างจังหวัด มีการหารือ 4 จังหวัดภาคเหนือ ทั้งเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้เขต และอุทยานแห่งชาติทุกแห่งว่า จะต้องทำงานแบบไร้รอยต่อ ไม่สนใจว่าเป็นจังหวัดไหน

แต่สามารถเข้าดับไฟได้ในทันทีที่พบเห็น หรือได้รับการแจ้ง พร้อมขยายผลไปยังทุกอำเภอ ประสานงานส่งข่าว และช่วยกันดับไฟ ผสานไปกับการให้ความรู้ เตือน และปรามประชาชน บนความหวังแห่งความสำเร็จว่าจะต้องดีขึ้น ขออย่างเดียว คือ ขอไม่ด่า แค่บอกมาดีๆ ก็ทำให้แล้ว

นายนิรัตน์กล่าวว่า มิติใหม่อีกอย่างคือ การลดการเผาในเขตเมือง และชุมชน จากปัญหาที่เชียงใหม่มีการขยายตัว ทำให้เกิดหมู่บ้านจัดสรรมากขึ้น ตามหมู่บ้านต่างๆ ก็จะมีการปลูกต้นไม้ ซึ่งจะมีการตัดแต่งประจำ เมื่อตัดแล้วไม่รู้จะเอาไปทิ้งที่ไหนก็เผาในพื้นที่เลย จุดนี้ได้ขอให้เทศบาลนครเชียงใหม่ และองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ จัดรถเข้าไปขนสัปดาห์ละครั้ง

เพื่อลดการเผา และลดควันไฟลงให้ได้ ส่วนช่วงเวลาการงดเผาในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคเหนือนั้น อยู่ระหว่างหารือช่วงเวลาที่เหมาะสมของแต่ละพื้นที่ โดยตั้งเป้าไว้ว่าต้องเผาให้น้อยที่สุด แล้วกันไปบริการจัดการด้วยวิธีอื่น อาทิ การทำปุ๋ย ทำเชื้อเพลิงทดแทน

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

“สัปดาห์นี้เราเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันไฟป่าแล้ว เพื่อเป็นศูนย์ในการหารือ จับตา และเฝ้าระวังจุดความร้อน หรือ Hotspot มีภาพ CCTV เพื่อดูสภาพอากาศว่าพื้นที่ไหนใส พื้นที่ไหนมัว เพื่อหาทางแก้ไขโดยเร็ว โดยล่าสุดมีการนำเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมมาประจำการที่เชิงดอยสุเทพแล้ว 2 ลำ และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์จะมีมาเพิ่มอีก 2 ลำ จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อสนับสนุนการทำงานดับไฟป่าทางอากาศ ซึ่งหวังไว้ว่าปีนี้สถานการณ์จะไม่รุนแรง” นายนิรัตน์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ทางด้านสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ รายงานจุดความร้อน หรือ Hotspot ประจำวันที่ 15 มกราคม 2566 เวลา 02.34 น. จังหวัดเชียงใหม่พบจุดความร้อน 6 จุด

ในพื้นที่ป่าสงวน อ.ดอยเต่า จำนวน 1 จุด อ.แม่แจ่ม จำนวน 3 จุด ในพื้นที่เกษตร และอื่นๆ อ.เวียงแหง จำนวน 2 จุด โดยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงปัจจุบันทั้งหมดจำนวน 100 จุด

ส่วนทางด้านศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 (ศอ.ปกป.ภาค 3)​ รายงานสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง 17 จังหวัดภาคเหนือ พบจุดความร้อนสูงในพื้นที่ ณ วันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา รวม 137 จุด

สูงสุดตามลำดับที่ จ.เชียงราย 18 จุด เชียงใหม่ 11 จุด พะเยา 12 จุด ตาก 14 จุด ลำพูน 12 จุด ลำปาง 12 จุด พบฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 มีค่าระหว่าง 11-39 มคก./ลบ.ม.

คุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีมากถึงปานกลาง พร้อมเร่งรณรงค์ผ่านสื่อโซเชียลทำความเข้าใจประชาชนทุกกลุ่มให้เข้าใจเรื่องหมอกหรือควันไฟ รณรงค์ลดการเผา เพื่อลมหายใจเดียวกัน

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ saarealtors.com

แทงบอล

Releated